โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุชา โสมาบุตร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการศึกษา
รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันการสอนวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ในยุคที่เทคโนโลยีและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาไม่สามารถยึดติดกับรูปแบบดั้งเดิมได้อีกต่อไป รายงานล่าสุดจาก World Economic Forum (WEF) ในเอกสาร Defining Education 4.0: A Taxonomy for the Future of Learning (มกราคม 2566) เสนอกรอบแนวคิด “Education 4.0” ซึ่งเป็น taxonomy หรือระบบสำหรับการเรียนรู้แห่งอนาคต โดยเน้นการพัฒนาทักษะ ความสามารถ ทัศนคติ และคุณค่าที่มนุษย์มีเอกลักษณ์ ไม่สามารถถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรได้

สำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่น (KKU) โดยเฉพาะสถาบันการสอนวิชาศึกษาทั่วไป (General Education Institute) แนวคิดนี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับภารกิจของเราในการเตรียมนักศึกษาให้พร้อมสำหรับโลกแห่งความไม่แน่นอน บทความนี้จะพาคุณ – ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ผู้สอน ผู้บริหาร นักศึกษา หรือนักวิชาการทั่วไป – ไปสำรวจว่า Education 4.0 สามารถบูรณาการเข้ากับวิชาศึกษาทั่วไปของ KKU ได้อย่างไร เพื่อเปลี่ยน mindset จากการบรรยายแบบ unilateral ไปสู่การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ การลงมือทำ และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่แท้จริง

Education 4.0: Taxonomy สำหรับการเรียนรู้แห่งอนาคต

Education 4.0 เป็นกรอบการศึกษาที่พัฒนาจากการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา หน่วยงานไม่แสวงผลกำไร กระทรวงศึกษาธิการ และภาคเอกชน โดย WEF เน้นย้ำว่าการศึกษาต้องเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับตลาดแรงงานที่ต้องการทักษะหลากหลาย ไม่ใช่แค่ความรู้ทางวิชาการ แต่รวมถึง soft skills และคุณค่าทางสังคม รายงานชี้ว่าการลงทุนในทักษะอย่าง collaborative problem-solving เพียงทักษะเดียว สามารถเพิ่ม GDP โลกได้ถึง 2.54 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ UNICEF รายงานว่าเด็กและเยาวชนทั่วโลกกว่า 50% ยังขาดทักษะพื้นฐานสำหรับการทำงานและชีวิต

Taxonomy ของ Education 4.0 จัดกลุ่ม aptitude (ความสามารถที่สามารถสอนและเรียนรู้ได้) ออกเป็น 3 ระดับหลัก ดังแผนภาพในรายงาน:

 
ระดับ 1ระดับ 2ระดับ 3 (เน้นย้ำ)
Abilities and SkillsCognitive (Analytical)Creativity, Critical Thinking, Digital Skills & Programming, Problem Solving, Systems Analysis
 Social (Inter-personal)Collaboration, Communication, Negotiation, Socio-emotional Awareness
 PhysicalBalance, Coordination, Positional Awareness, Strength
Attitudes and ValuesSelf-regulatory (Intra-personal)Adaptability, Conscientiousness, Curiosity, Grit, Growth Mindset, Initiative
 Societal (Extra-personal)Civic Responsibility, Environmental Stewardship, Empathy and Kindness, Global Citizenship
Knowledge and InformationDisciplinary KnowledgeDiscipline-specific (เช่น ความรู้เฉพาะสาขา)

ส่วนใหญ่ taxonomy นี้เน้น “Abilities and Skills” และ “Attitudes and Values” เนื่องจากนายจ้างต้องการทักษะเหล่านี้มากขึ้น เช่น จากการวิเคราะห์โฆษณางาน 2 ล้านตำแหน่ง พบว่าทักษะชั้นนำคือ communication, creativity, collaboration, creative problem-solving และ critical thinking ส่วน knowledge and information ถูกลดความสำคัญลง เพราะเทคโนโลยีช่วยเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย แต่ต้องมีทักษะในการตีความและใช้อย่างมีจริยธรรม

กรอบนี้เชื่อมโยงกับ Global Skills Taxonomy ของ WEF สำหรับผู้ใหญ่ โดยแสดงให้เห็นว่าทักษะจากวัยเด็กจะต่อยอดสู่การทำงาน ทำให้เกิดสะพานเชื่อมระหว่างการศึกษาเด็กและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

วิชาศึกษาทั่วไปที่ KKU: เติมเต็มช่องว่างสู่บัณฑิตรอบด้าน

ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิชาศึกษาทั่วไป (General Education) ไม่ใช่แค่วิชาเสริม แต่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างบัณฑิตที่สมบูรณ์แบบ ตามปรัชญาการศึกษาของ KKU ที่มุ่ง “สร้างปัญญา ปัญญาชน และสังคมคุณธรรม” วิชาเหล่านี้ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ 3 ประการหลัก

  1. เตรียมความพร้อมในการปรับตัวจากมัธยมสู่มหาวิทยาลัย: นักศึกษามักเผชิญช็อกทางวัฒนธรรม จากการเรียนแบบครูสั่ง-นักเรียนทำ มาเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง เราจึงใช้เนื้อหาที่เชื่อมโยงชีวิตจริง เช่น วิชา “การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา” ที่ฝึก critical thinking ผ่าน case study จากปัญหาสังคมไทย ช่วยให้นักศึกษาปรับ mindset จาก passive learner สู่ active learner
  2. เติมเต็มทักษะที่ขาดในหลักสูตรเฉพาะทาง: สำหรับนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เน้น hard skills วิชาศึกษาทั่วไปจากมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์จะเติม soft skills เช่น empathy จากวิชา “จริยธรรมและคุณธรรมในสังคม” หรือ global citizenship จาก “วัฒนธรรมและสังคมโลก” รายงาน WEF ชี้ว่าทักษะเหล่านี้เป็น bottleneck ในกระบวนการจ้างงาน โดยเฉพาะ socio-emotional skills ที่เพิ่มคะแนนการเรียนและสุขภาพจิต
  3. พัฒนาทักษะผ่านเนื้อหาที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน: วิชาเหล่านี้ครอบคลุมหัวข้อที่ไม่สอนในหลักสูตรหลัก เช่น “การจัดการสุขภาพจิต” หรือ “ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม” ซึ่งให้ทั้งความรู้ชีวิตและทักษะทางปัญญา เช่น grit และ adaptability ผ่าน project-based learning ที่นักศึกษาต้องลงมือทำจริง

สถาบันของเราจัดการเรียนการสอนให้ครอบคลุมกว่า 30 วิชา แบ่งเป็นกลุ่มมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ และภาษา โดยมีเครดิตบังคับ 30-40 หน่วยกิตสำหรับทุกคณะ เพื่อให้บัณฑิต KKU มี holistic knowledge ที่พร้อมทำงานในเศรษฐกิจดิจิทัล

บูรณาการ Education 4.0 เข้ากับการสอนวิชาศึกษาทั่วไป: จากบรรยายสู่ประสบการณ์จริง

การนำ taxonomy ของ Education 4.0 มาใช้ที่ KKU คือการเปลี่ยน paradigm จาก lecture-based สู่ experiential learning ที่เน้น interaction และ hands-on ตามที่ WEF แนะนำในส่วน “The Taxonomy in Action: Education 4.0 Learning Experiences” ซึ่งรวม pedagogies เช่น personalized learning, problem-based learning และ lifelong learning

พัฒนา Abilities and Skills ผ่านกิจกรรมปฏิบัติ

ในระดับ cognitive skills วิชา “นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์” ฝึก creativity และ problem solving ผ่าน workshop สร้าง prototype จากวัสดุรีไซเคิล โดยนักศึกษาต้อง collaborate ในทีมหลากหลายสาขา สอดคล้องกับการศึกษาของ WEF ที่พบว่าความต้องการ digital skills เพิ่ม 212% ระหว่างปี 2012-2015 เราจึงผนวก programming พื้นฐานเข้ากับวิชานี้ โดยใช้ tool ฟรีอย่าง Scratch หรือ Python เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้

สำหรับ social skills วิชา “การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม” ใช้ role-playing simulation ที่นักศึกษาจำลอง negotiation ระหว่างวัฒนธรรมไทย-นานาชาติ ช่วยพัฒนา communication และ socio-emotional awareness จากข้อมูล WEF ทักษะเหล่านี้ช่วยให้เด็กที่เล่นร่วมกันตั้งแต่อายุ 3 ขวบ มีสุขภาพจิตดีขึ้นในวัยเรียนประถม

ส่วน physical skills แม้ไม่ใช่จุดเน้น แต่เราบูรณาการผ่านกิจกรรม outdoor เช่น team-building ในวิชา “สุขภาพและการออกกำลังกาย” ที่ฝึก coordination และ strength ผ่านกีฬาแบบ cooperative

สร้าง Attitudes and Values ด้วย mindset การเรียนรู้ตลอดชีวิต

Attitudes and values เป็นหัวใจของ Education 4.0 ที่ WEF จัดกลุ่มเป็น intra-personal (เช่น growth mindset) และ extra-personal (เช่น civic responsibility) ที่ KKU เราพัฒนาเหล่านี้ผ่าน reflective journaling ในทุกวิชา เช่น ใน “พลเมืองโลกและความยั่งยืน” นักศึกษาต้องเขียน essay เกี่ยวกับ environmental stewardship โดยเชื่อมโยงกับปัญหาแม่น้ำโขง ส่งเสริม curiosity และ grit เมื่อเผชิญความท้าทายจริง

สำหรับ societal values วิชา “สิทธิพลเมืองและประชาธิปไตย” จัด debate simulation เกี่ยวกับประเด็นสังคมไทย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ช่วยสร้าง empathy and kindness ผ่านการฟังมุมมองผู้อื่น สอดคล้องกับแนวคิดของ John Dewey ที่ WEF อ้างอิง ว่าการสอน values เป็นส่วนหนึ่งของ curriculum เพื่อสังคมที่ดีขึ้น

เรายังเน้น ethical considerations สำหรับเทคโนโลยี เช่น ในวิชา “จริยธรรมดิจิทัล” ที่讨论 gene editing หรือ AI bias ตามที่ WEF เตือน ว่าต้องมี values เพื่อปกป้องความเป็นธรรมและเสรีภาพ

Knowledge and Information: ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้น

แม้ taxonomy จะลด emphasis แต่ knowledge ยังสำคัญ โดยเราสอน disciplinary knowledge แบบ interdisciplinary เช่น ใน “วิทยาศาสตร์และสังคม” ที่เชื่อม physics กับ environmental issues ผ่าน data analysis ด้วย Google Sheets นักศึกษาจะได้ทักษะตีความข้อมูลมหาศาลจากอินเทอร์เน็ต โดยใช้ attitudes จาก taxonomy เพื่อ guide การตัดสินใจ

ตัวอย่างการนำไปใช้: กิจกรรมที่เปลี่ยน mindset

เพื่อให้เห็นภาพ ลองดูตัวอย่างจากภาคปฏิบัติที่ KKU:

  • Project: “Sustainable Campus Challenge” ในวิชา “ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม” นักศึกษาทีมละ 5 คน (จากคณะต่าง ๆ) ต้องแก้ปัญหาขยะพลาสติกในมหาวิทยาลัย โดยใช้ design thinking: empathy (สัมภาษณ์ผู้ใช้), ideation (brainstorming), prototype (สร้างโมเดล), และ test (present ต่อคณะกรรมการ) กิจกรรมนี้พัฒนา collaboration, critical thinking, และ global citizenship ผลลัพธ์? นักศึกษาสร้างถังรีไซเคล์อัจฉริยะที่ใช้จริงใน campus และ mindset เปลี่ยนจาก “ฟังบรรยาย” เป็น “ลงมือทำเพื่อสังคม”
  • Simulation: “Global Negotiation Lab” ในวิชา “การเจรจาและการแก้ไขข้อขัดแย้ง” ใช้ VR tool ฟรีจำลองสถานการณ์ trade war ระหว่างไทย-จีน นักศึกษาฝึก negotiation และ socio-emotional awareness ผ่าน feedback loop จาก peer review สอดคล้องกับ WEF ที่เน้น interpersonal skills สำหรับ future of work
  • Reflective Portfolio: “My Growth Journey” ทุกเทอม นักศึกษาสร้าง e-portfolio ที่บันทึก progress ใน growth mindset และ initiative ผ่าน video reflection ช่วยพัฒนา self-regulatory skills และ lifelong learning

กิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่ gimmick แต่เป็น evidence-based จาก consultation กับ employer เช่น บริษัทเทคโนโลยีในโซน EEC ที่ต้องการบัณฑิต KKU ที่มี soft skills พร้อม hard skills

สรุป: เปลี่ยน mindset สู่ Education 4.0 ที่ KKU

Education 4.0 จาก WEF ไม่ใช่แค่ taxonomy แต่เป็น roadmap สำหรับการศึกษาที่ empower เยาวชนให้เป็นมนุษย์ที่ resilient, empathetic และ innovative ที่ KKU วิชาศึกษาทั่วไปคือเครื่องมือหลักในการ realize กรอบนี้ โดยเติมเต็มจุดประสงค์ 3 ประการ: ปรับตัว, เติมทักษะสมบูรณ์, และพัฒนาผ่านชีวิตจริง

สำหรับอาจารย์และผู้บริหาร: ลอง shift จาก syllabus แบบ content-heavy สู่ outcome-based ที่วัดจาก skills demonstration สำหรับนักศึกษา: ใช้โอกาสนี้สร้าง portfolio ที่ showcase ทักษะของคุณ สำหรับนักวิชาการ: ชวน dialog กันเพื่อ refine แนวทางนี้ให้เหมาะกับบริบทไทย