• มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันการสอนวิชาศึกษาทั่วไป
  • อาคารพจน์ สารสิน

มหาวิทยาลัยขอนแก่นกำหนดให้นักศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีทุกคนลงทะเบียนเรียนรายวิชาในหมวดวิชาศึกษาทั่วไปไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต โครงสร้างการจัดสรรหน่วยกิตได้ออกแบบเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการวางรากฐานสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับบัณฑิตทุกคนและการเปิดโอกาสให้หลักสูตรและผู้เรียนสามารถออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมได้ โครงสร้างหน่วยกิตแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ซึ่งแต่ละส่วนมีวัตถุประสงค์และแนวปฏิบัติที่แตกต่างกัน

รายวิชาภาษาอังกฤษ (12 หน่วยกิต)

แก่นสมรรถนะ

แก่นที่ 1 แก่นการพัฒนาหารสื่อสารในระดับสากล (Core of Global Communication Development)

หลักการ

รายวิชาภาษาอังกฤษเป็นสมรรถนะพื้นฐานบังคับสำหรับบัณฑิตทุกคน เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงองค์ความรู้สากลและสื่อสารในระดับสากล การจัดสรรหน่วยกิต 12 หน่วยกิตสะท้อนความสำคัญของภาษาอังกฤษในฐานะทักษะหลักที่จำเป็นต่อการเรียนรู้และการทำงานในศตวรรษที่ 21

เส้นทางการเรียนรู้

มหาวิทยาลัยกำหนดเส้นทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไว้ 2 รูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละสาขาวิชา ดังนี้

    1. เส้นทางการเรียนรู้หลัก (Standard Pathway)

นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษที่พัฒนาและจัดการสอนโดยหน่วยงานกลางของมหาวิทยาลัย ได้แก่ สถาบันภาษา ให้ครบ 12 หน่วยกิต เส้นทางนี้เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแบบครอบคลุมและได้มาตรฐานที่สม่ำเสมอ

    1. เส้นทางการเรียนรู้เฉพาะทาง (Specialized Pathway)

เพื่อให้การเรียนรู้สอดคล้องกับบริบทของสาขาวิชาชีพ คณะหรือหลักสูตรสามารถพัฒนาและจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ (English for Academic Purposes) ได้ไม่เกิน 6 หน่วยกิต โดยรายวิชาดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากสถาบันภาษาเพื่อรับรองมาตรฐานและคุณภาพ นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษส่วนที่เหลืออีก ไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิตจากหน่วยงานกลางของมหาวิทยาลัยเพื่อให้ครบ 12 หน่วยกิต

แก่นสมรรถนะ

แก่นที่ 2 แก่นการพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยี (Core of Technological Fluency Development)

หลักการ

รายวิชาศึกษาทั่วไปบังคับโดยมหาวิทยาลัยมุ่งเสริมสร้างสมรรถนะที่สำคัญตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานและผู้ประกอบการ หลักการสำคัญคือการสร้างความมั่นใจว่านักศึกษานอกจากจะมีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของตนแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีเกิดใหม่เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานหรือการประกอบอาชีพมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

การดำเนินการ

หลักสูตรทุกหลักสูตรต้องกำหนดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนในแก่นที่ 2 แก่นการพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยี 3 หน่วยกิต เพื่อให้บัณฑิตทุกคนได้รับการพัฒนาสมรรถนะทางเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมกัน การกำหนดนี้สะท้อนความเชื่อของมหาวิทยาลัยว่าความสามารถทางเทคโนโลยีเป็นสมรรถนะสากลที่จำเป็นสำหรับบัณฑิตในทุกสาขาวิชา

ทักษะที่ครอบคลุมในแก่นนี้ ได้แก่

    • ความรอบรู้ด้านดิจิทัลและความเป็นพลเมืองดิจิทัล
    • ความรอบรู้ด้านข้อมูลและเทคโนโลยีเกิดใหม่
    • การใช้และพัฒนาซอฟต์แวร์
    • ความรอบรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์

 

ตัวอย่างรายวิชาที่เปิดสอนในแก่นนี้ เช่น

    • ความรอบรู้ด้านดิจิทัลสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
    • ความรอบรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์เพื่อการทำงาน
    • การคิดเชิงคำนวณและการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
    • เทคโนโลยีเกิดใหม่และผลกระทบต่อสังคม

หลักการ

รายวิชาศึกษาทั่วไปบังคับโดยคณะหรือหลักสูตรมุ่งเปิดโอกาสให้แต่ละหลักสูตรสามารถออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathway) และเสริมสร้างสมรรถนะที่จำเป็นต่อการพัฒนาอัตลักษณ์และคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ของสาขาวิชา การจัดสรรหน่วยกิต 6 หน่วยกิตในส่วนนี้สะท้อนการให้อิสระและความยืดหยุ่นแก่หลักสูตรในการออกแบบการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะและความต้องการของวิชาชีพ

การดำเนินการ

คณะหรือหลักสูตรต้องกำหนดแก่นสมรรถนะจากแก่นที่ 2-5 ที่มีความสำคัญและสอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรเพื่อให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนรวม 6 หน่วยกิต โดยสามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบ ดังนี้

    1. การกำหนดรายวิชาบังคับ (Prescribed Courses)

หลักสูตรสามารถระบุรายวิชาเฉพาะที่นักศึกษาต้องลงทะเบียนเรียนจากแก่นที่กำหนดเพื่อให้มั่นใจว่านักศึกษาทุกคนได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพ รูปแบบนี้เหมาะสำหรับหลักสูตรที่ต้องการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของสมรรถนะเฉพาะอย่างเคร่งครัด

ตัวอย่าง

        • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์อาจกำหนดให้นักศึกษาเรียนรายวิชา “การคิดเชิงออกแบบและนวัตกรรม” จากแก่นที่ 3 จำนวน 3 หน่วยกิต และรายวิชา “ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม” จากแก่นที่ 4 จำนวน 3 หน่วยกิต
        • หลักสูตรบริหารธุรกิจอาจกำหนดให้เรียนรายวิชา “การเจรจาต่อรองและการสร้างเครือข่าย” จากแก่นที่ 4 จำนวน 3 หน่วยกิต และรายวิชา “การบริหารจัดการตนเองและความฉลาดทางอารมณ์” จากแก่นที่ 5 จำนวน 3 หน่วยกิต

    1. การเปิดให้เลือกอย่างอิสระภายในแก่น (Flexible Choice within Core)

หลักสูตรสามารถกำหนดเพียงแก่นสมรรถนะที่ต้องการเน้น และเปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกเรียนรายวิชาใดก็ได้ภายในแก่นนั้นตามความสนใจให้ครบ 6 หน่วยกิต รูปแบบนี้เหมาะสำหรับหลักสูตรที่ต้องการส่งเสริมการเรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียน

ตัวอย่าง

        • หลักสูตรวิทยาศาสตร์อาจกำหนดให้นักศึกษาเรียนจากแก่นที่ 3 (การพัฒนาปัญญาและนวัตกรรม) 6 หน่วยกิต โดยนักศึกษาสามารถเลือกเรียนทักษะใดก็ได้ในแก่นนั้น เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ การคิดสร้างสรรค์ หรือการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
        • หลักสูตรศิลปศาสตร์อาจกำหนดให้เรียนจากแก่นที่ 4 (การพัฒนาภาวะผู้นำและปฏิสัมพันธ์) 3 หน่วยกิต และจากแก่นที่ 5 (การพัฒนาศักยภาพและการกำกับตนเอง) 3 หน่วยกิต โดยเปิดให้เลือกรายวิชาตามความสนใจ

หลักการ

รายวิชาศึกษาทั่วไปเลือกโดยนักศึกษามุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบการพัฒนาตนเอง (Personalization) ตามความสนใจหรือเพื่อเสริมสมรรถนะที่ต้องการพัฒนา การจัดสรรหน่วยกิต 3 หน่วยกิตในส่วนนี้สะท้อนหลักการ Student Agency ที่ให้ความสำคัญกับการเป็นผู้กำกับการเรียนรู้ของตนเอง

การดำเนินการ

หลักสูตรต้องเปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกเรียนรายวิชาศึกษาทั่วไปใดก็ได้จากทุกแก่นสมรรถนะโดยไม่จำกัดแก่น 3 หน่วยกิต เพื่อให้ผู้เรียนมีอิสระในการสำรวจและพัฒนาสมรรถนะตามความสนใจส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์การเลือกเรียน

นักศึกษาสามารถออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ของตนได้อย่างอิสระตามวัตถุประสงค์ ดังนี้

    1. การพัฒนาสมรรถนะเสริม – เลือกเรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะที่ยังต้องการพัฒนา
    2. การขยายขอบเขตความรู้ – เลือกเรียนเพื่อเปิดมุมมองใหม่และเข้าถึงศาสตร์อื่น ๆ
    3. การตามความสนใจส่วนบุคคล – เลือกเรียนตามความชอบและความสนใจที่แท้จริง
    4. การเตรียมความพร้อมอนาคต – เลือกเรียนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการทำงานหรือการศึกษาต่อ
    5. การสร้างความสมดุลในชีวิต – เลือกเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี