• มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันการสอนวิชาศึกษาทั่วไป
  • อาคารพจน์ สารสิน
ทักษะที่มุ่งเน้นในแก่นที่ 1 การพัฒนาการสื่อสารในระดับสากล

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 1 และ 2

คือสมรรถนะด้านการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การเรียน และการทำงานที่ครอบคลุมทักษะฟัง–พูด–อ่าน–เขียน โดยมุ่งเน้นการสื่อความหมายได้ชัดเจน เหมาะสมกับผู้รับสารและบริบท เช่น การสนทนาทั่วไป การแลกเปลี่ยนข้อมูล การสอบถามและให้คำอธิบาย
ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจสารที่เป็นทั้งข้อความพูดและเขียน ตอบโต้สื่อสารด้วยคำศัพท์และโครงสร้างภาษาที่เหมาะสม ใช้กลยุทธ์สื่อสาร (เช่น การยกตัวอย่าง การทวนความ การขอให้ชี้แจง) และใช้ภาษาอังกฤษในช่องทางดิจิทัล เช่น อีเมล แชท หรือการนำเสนอสั้น ๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นจากรายวิชาที่ต่อเนื่องจากระดับ 1 ไปสู่ระดับ 2

ภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ 1 และ 2

คือสมรรถนะด้าน English for Academic Purposes ที่เน้นการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทการเรียนรู้และการทำงานเชิงวิชาการ เช่น การอ่านบทความ/ตำรา การเขียนเชิงวิชาการ การนำเสนอ และการอภิปรายประเด็นเชิงทฤษฎีหรือหลักฐานเชิงประจักษ์
ผู้เรียนสามารถอ่านและทำความเข้าใจข้อความวิชาการ สรุปและสังเคราะห์ข้อมูล อ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างเหมาะสม เขียนงานวิชาการระดับพื้นฐานถึงระดับซับซ้อนมากขึ้น (จากรายวิชา 1 ไป 2) และใช้ภาษาอังกฤษในการนำเสนอหรืออภิปรายประเด็นเชิงวิชาการอย่างมีโครงสร้างและมีเหตุผล สอดคล้องกับสมรรถนะด้านการสื่อสาร การรู้สารสนเทศ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตในกรอบทักษะโลก

ความรอบรู้ด้านดิจิทัลและความเป็นพลเมืองดิจิทัล

คือ สมรรถนะด้าน “Technological literacy” และ “Digital skills” ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัล แพลตฟอร์มออนไลน์ และระบบสารสนเทศต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ ปรับตัวได้กับเทคโนโลยีใหม่ และใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการเรียนรู้ของตนเอง
ผู้เรียนมีทัศนคติของพลเมืองดิจิทัลที่รับผิดชอบ เคารพกติกา สร้างความปลอดภัยไซเบอร์ให้ตนเองและผู้อื่น ใช้ข้อมูลและสื่อออนไลน์อย่างมีจริยธรรม และตระหนักว่าทักษะดิจิทัลเป็นหนึ่งในทักษะหลักที่กำลังเติบโตสูงสุดในตลาดงานไปจนถึงปี 2030

ความรอบรู้ด้านข้อมูลและเทคโนโลยีเกิดใหม่

คือ กลุ่มสมรรถนะด้าน “AI and big data” และ “Data-driven capabilities” ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถค้นหา เก็บรวบรวม ทำความสะอาด วิเคราะห์ และตีความข้อมูล เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจเชิงหลักฐาน (evidence-based) รวมถึงเข้าใจบทบาทของข้อมูลในระบบอัตโนมัติและเศรษฐกิจดิจิทัล
ผู้เรียนสามารถติดตามและทำความเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น AI หุ่นยนต์ ระบบไซเบอร์-กายภาพ และเครือข่ายอัจฉริยะ เชื่อมโยงข้อมูลกับเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อสร้างนวัตกรรมหรือปรับปรุงกระบวนการทำงาน และตระหนักถึงความเสี่ยงด้านจริยธรรม ความเป็นส่วนตัว และความเหลื่อมล้ำที่อาจเกิดขึ้น

การใช้และพัฒนาซอฟต์แวร์

คือ สมรรถนะด้าน “Technology design and programming” และ “Use of digital tools” ซึ่งครอบคลุมความสามารถในการเลือกและใช้ซอฟต์แวร์ประเภทต่าง ๆ ให้เหมาะกับงาน เช่น ซอฟต์แวร์สำนักงาน เครื่องมือออนไลน์เพื่อการทำงานร่วมกัน ระบบจัดการงาน/โครงการ และแพลตฟอร์มดิจิทัลในองค์กร
ผู้เรียนมีพื้นฐานการคิดเชิงตรรกะและการออกแบบโซลูชันเชิงดิจิทัล สามารถเขียนหรือดัดแปลงโค้ด/สคริปต์ หรือใช้แพลตฟอร์ม low-code/no-code เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ง่าย ๆ ปรับเวิร์กโฟลว์งานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีทัศนคติที่เปิดรับการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดแรงงาน

ความรอบรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Literacy)

คือ ส่วนหนึ่งของสมรรถนะ “AI and big data” และ “Analytical and critical thinking” ที่มุ่งให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของ AI บทบาทของข้อมูลและอัลกอริทึม ข้อจำกัดและอคติของระบบ AI รวมถึงผลกระทบต่ออาชีพ เศรษฐกิจ และสังคมในอนาคตการทำงาน
ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือ AI ในงานประจำวันอย่างมีคุณค่าและรับผิดชอบ เช่น การตั้งโจทย์/พรอมต์ การประเมินความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์–AI และการตัดสินใจว่าเมื่อใดควรใช้หรือไม่ใช้ AI โดยเชื่อมโยงกับกรอบทักษะอนาคตที่จัดให้ AI และ Big Data เป็นหนึ่งในกลุ่มทักษะสำคัญที่สุดที่เติบโตเร็วในทศวรรษหน้า

การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา

คือ สมรรถนะเชิงความคิด (Cognitive skills) ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์จากหลายมุมมอง ระบุปัญหา ตั้งคำถาม ตรวจสอบหลักฐาน แยกแยะข้อเท็จจริง ความเห็น และอคติ ก่อนตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
ผู้เรียนสามารถนิยามปัญหา สร้างและเปรียบเทียบทางเลือก เลือกแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสม ลงมือทดลอง และสะท้อนผลเพื่อปรับปรุงวิธีคิดและวิธีทำงานในครั้งต่อไป โดยเชื่อมโยงกับบริบทการเรียนและสถานการณ์จริงในชีวิตและการทำงาน

ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

คือ สมรรถนะด้านการสร้างสรรค์ (Creativity and innovation skills) ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างไอเดียใหม่ ๆ ดัดแปลงหรือผสมผสานแนวคิดเดิมให้เกิดวิธีการ แผนงาน หรือผลิตผลที่แปลกใหม่และมีคุณค่าในบริบทที่ตนเผชิญ
ผู้เรียนกล้าทดลอง ตั้งสมมติฐาน สร้าง/ทดลองต้นแบบ (prototype) รับและใช้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงผลงาน เปิดรับความล้มเหลวในฐานะส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ และสามารถเปลี่ยนไอเดียให้เป็นนวัตกรรมที่นำไปใช้ได้จริงในชั้นเรียน องค์กร หรือชุมชน

ความรอบรู้ด้านความยั่งยืนและธรรมาภิบาล

คือ สมรรถนะด้าน “Sustainability and responsible governance” ที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมถึงหลักคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สิทธิของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และมาตรฐาน/เป้าหมายสากลที่เกี่ยวข้อง เช่น SDGs
ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ผลกระทบของการตัดสินใจหรือโครงการต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ร่วมออกแบบแนวทางหรือโครงการที่คำนึงถึงความยั่งยืนและความเป็นธรรม มีความโปร่งใส รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ และตัดสินใจโดยคำนึงถึงประโยชน์ระยะยาวของชุมชนและสังคม

การวางแผนและการทำงานอย่างมีกลยุทธ์

คือ สมรรถนะด้าน “Ways of working” และ “Strategic capabilities” ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถตั้งเป้าหมาย วางแผน กำหนดลำดับความสำคัญ จัดสรรทรัพยากร และติดตามความก้าวหน้าของงานอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมของทีม/องค์กร
ผู้เรียนสามารถเลือกวิธีการทำงาน เครื่องมือ และรูปแบบความร่วมมือให้เหมาะกับภารกิจ ปรับแผนเมื่อเผชิญข้อจำกัดหรือการเปลี่ยนแปลง ใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และสะท้อนผลการทำงานเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ในรอบถัดไป

การสื่อสารและความรู้เท่าทันสารสนเทศ

คือ สมรรถนะในกลุ่ม “Communication and information literacy” ที่ครอบคลุมความสามารถในการสื่อสารอย่างชัดเจน เหมาะสมกับผู้รับสารและช่องทาง ทั้งการพูด เขียน และสื่อดิจิทัล รวมถึงการฟังอย่างมีประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ผู้เรียนสามารถค้นหา คัดเลือก ประเมินความน่าเชื่อถือของสารสนเทศจากหลายแหล่ง แปลความและสังเคราะห์ข้อมูลให้เป็นสารหรือสื่อที่เข้าใจง่าย ใช้เครื่องมือสื่อสารดิจิทัลได้อย่างรับผิดชอบ และมีทักษะสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม/บริบทที่หลากหลาย

การพัฒนาความสัมพันธ์และความฉลาดทางอารมณ์

คือสมรรถนะด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ (social-emotional competences) ที่ทำให้ผู้เรียนตระหนักรู้และเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น ควบคุมอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ และใช้ข้อมูลด้านอารมณ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกในห้องเรียนและที่ทำงาน
ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมเช่น รับฟังอย่างลึกซึ้ง เห็นอกเห็นใจ (empathy) ให้และรับข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ จัดการความขัดแย้งอย่างเคารพ และรักษาความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกันได้ต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับชุดสมรรถนะด้านการตระหนักรู้ตนเอง การจัดการตนเอง การตระหนักรู้ทางสังคม และการจัดการความสัมพันธ์ในกรอบความฉลาดทางอารมณ์

ประสิทธิผลของทีมและการทำงานร่วมกัน

คือสมรรถนะด้านการทำงานเป็นทีมและความร่วมมือ (teamwork and collaboration) ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน โดยเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น แบ่งปันข้อมูล สนับสนุนสมาชิกทีม และปรับมุมมองของตนเพื่อประโยชน์ของทีม
ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างรับผิดชอบ สื่อสารในทีมอย่างชัดเจน เปิดรับความเห็นที่หลากหลาย แก้ปัญหาและตัดสินใจร่วมกัน จัดการความขัดแย้งในทีมอย่างสร้างสรรค์ และรักษามาตรฐานการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหัวใจของทักษะระหว่างบุคคลในตลาดงานยุคใหม่

ภาวะผู้นำและการขับเคลื่อนระบบ

คือสมรรถนะด้าน “Leadership and social influence” และ “Mobilizing systems” ที่ทำให้ผู้เรียนสามารถริเริ่ม ชี้นำ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น ขณะเดียวกันมองเห็นภาพรวมของระบบ (เช่น โรงเรียน องค์กร ชุมชน) และเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
ผู้เรียนสามารถกำหนดวิสัยทัศน์หรือทิศทางร่วม สื่อสารให้เข้าใจ สร้างความร่วมมือข้ามกลุ่มหรือหน่วยงาน ใช้ข้อมูลและข้อเท็จจริงในการโน้มน้าว ตัดสินใจอย่างรับผิดชอบต่อผลกระทบต่อผู้อื่น และพัฒนากลไกหรือนวัตกรรมในระดับระบบ ไม่จำกัดเฉพาะงานของตนเอง

การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม

คือสมรรถนะด้านการสื่อสารและการทำงานในบริบทหลากหลายวัฒนธรรม (intercultural competence) ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและเคารพความแตกต่างทางภาษา ค่านิยม และบรรทัดฐานทางสังคม และสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้คนจากภูมิหลังที่หลากหลาย
ผู้เรียนสามารถปรับรูปแบบการสื่อสารให้เหมาะกับบริบทและผู้รับสาร ขจัดอคติของตนเอง เปิดรับมุมมองใหม่ สร้างความไว้วางใจในทีมข้ามวัฒนธรรม และจัดการความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มทักษะ “working with others in diverse environments” ในกรอบทักษะระดับโลก

การตระหนักรู้และบริหารจัดการตนเอง

คือสมรรถนะด้าน Motivation and self‑awareness / Self‑management ที่ทำให้ผู้เรียนรู้จักตนเอง เข้าใจจุดแข็ง–จุดอ่อน ค่านิยม แรงจูงใจ และอารมณ์ของตน และใช้ความเข้าใจนี้ในการตั้งเป้าหมาย วางแผน และกำกับพฤติกรรมของตนให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้และการทำงาน
ผู้เรียนสามารถควบคุมอารมณ์และความเครียด บริหารเวลาและพลังงาน รับและใช้ feedback เพื่อพัฒนาตนเอง รักษาวินัยในการเรียน/ทำงาน และแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับแนวคิด self‑leadership และ self‑management ในกรอบทักษะสากล

การมุ่งผลสัมฤทธิ์และความพากเพียร

คือสมรรถนะด้าน Goal achievement / Achievement orientation ที่ทำให้ผู้เรียนตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่เป็นไปได้ แปลงเป้าหมายเป็นแผนปฏิบัติ ติดตามความก้าวหน้า และไม่ยอมแพ้ง่ายเมื่อเจออุปสรรค
ผู้เรียนแสดงความพยายามต่อเนื่อง ปรับกลยุทธ์เมื่อผลยังไม่เป็นที่พอใจ มองความล้มเหลวเป็นข้อมูลเพื่อเรียนรู้ และรักษามาตรฐานคุณภาพของงานที่ทำ ซึ่งเชื่อมโยงกับมิติ “ability to execute” และ “motivation & initiative” ในกรอบทักษะอนาคตของพลเมือง

ความยืดหยุ่นและการปรับตัว

คือสมรรถนะด้าน Resilience, flexibility and agility ที่ช่วยให้ผู้เรียนรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และความกดดันได้อย่างสร้างสรรค์ สามารถฟื้นตัวหลังเผชิญความล้มเหลวหรือวิกฤติ และปรับตัวทั้งในระดับความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม
ผู้เรียนเปิดรับสถานการณ์ใหม่ เรียนรู้จากประสบการณ์ ปรับวิธีคิดและวิธีทำงานให้เหมาะกับบริบท เปลี่ยนแผนได้โดยยังคงมุ่งสู่เป้าหมาย และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่รอบตัวอย่างยืดหยุ่น ซึ่งเป็นทักษะที่ตลาดงานในรายงาน Future of Jobs ให้ความสำคัญสูงมาก

ความเป็นผู้ประกอบการและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

คือสมรรถนะด้าน Entrepreneurship และ Lifelong learning ที่ช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ กล้าลอง กล้ารับความเสี่ยงอย่างมีการคำนวณ ลงมือสร้างคุณค่าใหม่ให้ตนเอง องค์กร หรือสังคม และรักษาท่าทีของ “ผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต”
ผู้เรียนริเริ่มโครงการหรือไอเดียใหม่ สำรวจความต้องการของผู้ใช้หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทดลอง–ปรับปรุงต้นแบบ และสะท้อนบทเรียนเพื่อนำไปใช้รอบต่อไป พร้อมทั้งวางแผนพัฒนาทักษะของตนอย่างต่อเนื่องผ่านการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ (formal–nonformal–online) ตามแนวคิด lifelong learning ในกรอบ WEF และ OECD

ความรับผิดชอบต่อสังคมและจริยธรรม

คือสมรรถนะด้าน Societal skills และ Ethical responsibility ที่ทำให้ผู้เรียนตระหนักถึงผลกระทบทางสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และจริยธรรมจากการตัดสินใจและการกระทำของตน รวมถึงเข้าใจหลักการความเป็นธรรม สิทธิมนุษยชน ความหลากหลาย และความครอบคลุม
ผู้เรียนพิจารณาประโยชน์ส่วนรวม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ ตัดสินใจอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส เคารพกติกา กฎหมาย และมาตรฐานวิชาชีพ แสดงบทบาทพลเมืองที่รับผิดชอบ และมีส่วนร่วมในกิจกรรม/โครงการที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมหรือส่งเสริมความยั่งยืน