กิจกรรม "รู้ตน รู้คน รู้งาน"
                  

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน 2559 เวลา 13.30 น. ณ ห้อง GL215 อาคารพจน์สารสิน ชั้น 2 สำนักวิชาศึกษาทั่วไป
จัดกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ สร้างความผูกพันระหว่างบุคลากร ด้วยกิจกรรมการละลายพฤติกรรม ทำให้บุคลากรสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
ต่อกัน รู้จักเพื่อนร่วมงานมากขึ้นในแง่มุมต่าง ๆ ได้รู้ถึง ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนที่่มีความแตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผู้อื่น
และเป็นประโยชน์ต่อการ ประสานงานที่ดีต่อกัน และทำให้เป็นองค์กรแห่งความผาสุก ในอนาคต ในภาพรวมของกิจกรรมสรุปได้สังเขป
ดังนี้
1.ถ้ามีเงิน 100 ล้าน ท่านจะทำอะไร : เป็นกิจกรรมที่ให้ทุกคนจินตนาการถึงสิ่งที่จะทำหลังจากที่ตนเองมีเงิน 100 ล้าน ซึ่งแต่ละคน
สามารถจินตนาการได้อย่างอิสระ ทุกคนจะทราบแนวคิดของแต่ละคนว่าสิ่งที่เขาเหล่านั้นใฝ่ฝันคืออะไร อะไรคือจุดมุ่งหมายของชีวิต
2.กิจกรรมแนะนำตนเอง : โดยให้ตั้งแถวหน้ากระดานสองแถวหันหน้าเข้าหากันและมีการเล่นเกมส์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ การแนะนำตัว
ถามทุกข์สุขของอีกฝ่าย การโอบกอดกันผ่านบทเพลงที่กำหนด กิจกรรมนี้สามารถสร้างความสนิทสนมและความสุขที่เห็นได้จากรอยยิ้ม
ของบุคลากรที่เข้าร่วมกิจกรรม
3.กิจกรรม "ผู้นำ 4 ทิศ" :ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มหมี กลุ่มอินทรีย์ กลุ่มกระทิง และหนู ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

        ผู้นำทิศเหนือ : เปรียบเหมือน กระทิง คือ บุคลิกลักษณะ : มีนิสัยรวดเร็ว ทันใจ หวังผลเลิศ ชอบลงมือทำงานด้วยตนเอง แบบออกแอคชั่นด้วยตนเองมากกว่าฟังคนอื่นว่าตามกันมา ดังนั้นความรู้ที่ได้สั่งสมมาจึงมาจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง จึงไม่เชื่อ
ทฤษฎี โดยบุคลิกแล้วจะมีลักษณะดุดัน กล้าชน กล้าเผชิญหน้า มีความมุ่งมั่น จริงใจ เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างมีเป้าหมาย ชอบเห็นผลเร็ว
ชอบอยู่แนวหน้า กล้าแสดงออก ชอบใช้พลัง มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็ว เหมือนวัวกระทิงที่เจอสีแดงแล้วจะวิ่งชน
ทันที ถือว่าเป็นทิศของนักรบ เพราะมีความกล้าเสี่ยง กล้าท้าทาย ชอบวิ่งชนกับปัญหา ผู้นำลักษณะนี้เหมือนเถ้าแก่ยุคแรกเริ่ม
ในการทำธุรกิจของเจ้าสัวชาวจีน อยู่ในธาตุหยางตามหลักความเชื่อของชาวจีน นักการเมือง สื่อสารมวลชน ทนายความ มักจะมีบุคลิก
ของความเป็นกระทิงอยู่สูง

ข้อดี : พร้อมปกป้องดูแลลูกน้องแบบเป็นแม่ไก่กางปีกปกป้องลูกไก่ เป็นคนเอาพรรคเอาพวก ชอบอยู่เป็นกลุ่มก้อน ถือว่าเป็นทิศแห่งการ
ยืนหยัด พร้อมเผชิญหน้ากับความขัดแย้งทุกรูปแบบ ท้าทายอำนาจอย่างเปิดเผย

ข้อเสียควรแก้ไข : ควรที่จะยอมผิดพลาดบ้าง รู้จักที่จะช้าๆ กับบางเรื่อง รู้จักอดทนรอคอย อย่าคิดเร็วทำเร็ว หัดทบทวนการตัดสินใจ
ของตัวเองดูอีกครั้งว่าถูกต้องแม่นยำจริงๆ แล้วหรือไม่ เพราะอาจแฝงไว้ด้วยความมีความเป็นตัวตนสูง หรืออาจจะทำให้ดูเป็นคนชอบ
ใช้อำนาจมากเกินไป

ข้อเสนอแนะ : ถ้าจะให้ดี ควรมีความผสมผสานระหว่างผู้นำในแบบกระทิง และผู้นำในแบบหมี (กระทิงบวกกับหมีก็คือหมิง) โดยอาจจะมีความเป็นหมีสัก 60 เปอร์เซ็นต์ กระทิง 40 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ หรือแบบกระทิงสัก 60 แบบหมีสัก 40 ก็ได้เช่นกัน เพราะการสุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ จะมีปัญหาการทำงาน หรืออยู่ร่วมกับคนอื่นได้ในระยะยาวได้ หรือผู้นำอีกแบบหนึ่งก็คือการผสมผสานระหว่างกระทิงกับหนูก็ได้ อย่างน้อยกระทิงจะได้มีความอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ ให้ความสำคัญเรื่องของใจมากกว่าที่จะใช้กำลังเพียงอย่างเดียว

ตามหลักการนั้น ว่ากันว่าถ้าเป็นผู้นำแบบหมีผสมผสานกับกระทิง จะกลายเป็นผู้นำที่ดูน่าเกรงขามมาก เพราะจะเป็นนักคิดนักวางแผนที่กล้าเผชิญหน้า ต่อสู้กับความท้าทายปัญหาต่างๆ อย่างเป็นระบบระเบียบ เป็นนักบริหารที่แม่นยำ กล้าได้กล้าเสีย มั่นคงแบบกล้าฟันธงในทุกเรื่องราว


        ผู้นำทิศใต้ : เปรียบเสมือน หนู ซึ่งตกอยู่ในธาตุน้ำ ถือว่าเป็นทิศที่อยู่ในฐานใจ
บุคลิกลักษณะ : ให้ความสำคัญกับความรู้สึกและอารมณ์สูง ชอบใช้ใจมากกว่าการใช้กำลัง มีบุคลิกรวดเร็ว ว่องไว ปราดเปรียว ขี้เล่น
ขับเคลื่อนพลังด้วยความรู้สึกที่ใส่ใจ ชอบช่วยเหลือดูแลคนรอบข้างแบบอบอุ่น ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หล่อเลี้ยงและดูแล
ดึงคนมารวมกันอยู่ด้วยหัวใจได้อย่างมากมาย จะทำทุกวิถีทางที่ทำให้คนรอบข้างตัวรู้สึกดีอยู่เสมอ ถือว่ามีความเป็นผู้ให้สูง โดยลักษณะ
ของหนูนั้นจะไม่เรียกร้อง เป็นคนไม่เปิดเผย มีแบบแผน และชอบสนองความต้องการของผู้อื่นมากกว่าความต้องการของตนเอง
สังคมไทยจะคาดหวังให้ผู้หญิงมีบุคลิกลักษณะเป็นแบบหนู เพราะที่สำคัญบุคลิกของผู้นำในทิศนี้จะเป็นคนที่มีความประนีประนอมสูง
ไม่ชอบเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง จะหลีกเลี่ยงการปะทะรุนแรง รูปแบบการเป็นผู้นำแบบหนูนั้น ภาวะจะไม่เด่นเหมือนกระทิง มีบทบาท
หน้าที่เป็นผู้ประสานงานแบบเป็นกาวใจ มีความอ่อนโยนสุภาพ เป็นผู้นำในแบบผู้เยียวยา ถือว่าเป็นหยิน กล่าวคือเป็นฝ่ายตั้งรับ ผู้นำแบบนี้
เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาดี และผู้ที่เป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยามักจะเป็นผู้นำแบบทิศใต้นั่นเอง เป็นผู้นำในแบบผู้ประสานงานให้เกิดความราบรื่น
ในหมู่คณะแบบกาวใจนั่นเอง คนในอาชีพศิลปิน นักร้อง นักแสดง นักดนตรี จิตรกร มักจะมีบุคลิกแบบหนูสูงสุด

ข้อดี : จะเป็นผู้ที่หลีกเลี่ยงความขัดแย้งรุนแรง ไม่ชอบปะทะหรือใช้กำลังทำลายล้าง จะได้กลิ่นของความขัดแย้ง หรือความไม่ลงรอยกัน
ได้อย่างรวดเร็ว หน่วยงานใดที่ได้ผู้นำหรือผู้ร่วมงานแบบนี้จะโชคดี เพราะจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้รวดเร็วและราบรื่น

ข้อเสีย : แต่ที่โชคร้ายก็คือ องค์กรแบบนี้มักจะไม่ค่อยเจอผู้นำในแบบหนู เพราะหนูจะลาออกไปเสียก่อน เนื่องจากไม่สามารถจะอยู่ใน
ท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรงได้ และอาจจะถูกข่ม เนื่องจากมีความอ่อนโยน และประนีประนอมมากเกินไป เพราะจะเป็นผู้นำแบบขี้สงสาร
ชอบความสงบ และรักสันติ ในหน่วยงานต่างๆ มักจะพบผู้นำในแบบกระทิงมากกว่าผู้นำแบบหนู

ข้อเสนอแนะ : ควรนำความเด็ดเดี่ยว กล้าเผชิญกับปัญหาแบบกระทิงมาไว้ในความเป็นหนูบ้าง เนื่องจากหากเป็นหนูล้วนๆ จะดูใจน้อย ใช้ใจ
ใช้อารมณ์มากเกินไป จนดูอ่อนแอไม่น่าเกรงขาม และยากที่จะเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหนูกับกระทิงมาผสมกันจะดูดีขึ้น
เป็นหนูที่ทรงพลัง

          ผู้นำทิศตะวันตก : เปรียบเสมือน การเป็นผู้นำแบบหมี ซึ่งจัดอยู่ในธาตุดิน โดยจัดอยู่ในฐานความคิด บุคลิกลักษณะ :
เป็นแบบเสถียร คือต้องการความมั่นคงสูง เป็นคนหนักแน่นแบบช้าแต่มั่นใจ (ช้าแต่ชัวร์นั่นเอง) มีนิสัยชอบวิเคราะห์วิจัย มีแบบแผน
วิธีการทำงานที่ลงตัว หรือจะเรียกว่ามีระเบียบวินัยสูง มีความเชื่อว่าความเป็นระบบจะทำให้เกิดความสำเร็จ ไม่ชอบความวุ่นวาย
มีความรอบคอบ จะมองทุกอย่างไปข้างหน้าเสมอ คิดล่วงหน้า ชอบวางแผน มีขั้นตอนมีตรรกวิทยา ซึ่งจะต่างกับกระทิง ที่จะไม่ชอบ
วางแผน ทำงานแบบบุกตะลุย ประสบความสำเร็จแบบไม่มีกระบวนท่า

แต่ผู้นำแบบหมีนั้น จะเป็นพวกอนุรักษนิยม คือมีขั้นมีตอนมีระบบระเบียบ บริหารงานแบบใจเย็น มีหลักการสูง มีกรอบมีกติกา ในการ
ดำเนินชีวิตใช้เหตุผลเยอะ บางครั้งอาจจะดูเหมือนเป็นคนที่สื่อสารยาก เพราะชอบทำงานแบบอนุรักษนิยม คือเป็นระบบเป๊ะๆ ไม่ค่อยชอบ
การเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง จึงไม่ชอบทำอะไรแบบฉับพลันดำริ ชอบสังเกตการณ์ทุกสิ่งรอบตัว ไม่ชอบเกาะติดนัวเนีย
รักษาระยะและพื้นที่ตัวเองสูง ไม่ให้ใครเข้ามาในชีวิตส่วนตัวมากนัก รักความสันโดษ ผู้นำแบบนี้เหมาะกับการทำงานในอาชีพนักบัญชี
นักการเงิน สรรพากร ดูแลเรื่องภาษี เป็นคนกลัวพลาดสูง

ข้อดี : จะเป็นผู้นำที่หาความผิดพลาดได้ยาก เพราะมีหลักการทำงานแบบมีระบบระเบียบ เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ มีปรัชญาในการทำงาน
ในลักษณะที่เรียกว่าป้องกันดีกว่าแก้ไข

ข้อเสีย : มีลักษณะการทำงานที่เคร่งเครียด ไม่มีความยืดหยุ่น ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ผู้นำแบบหมีนั้นควรจะมีความเป็นอินทรีหรือกระทิง
ผสมอยู่ในการทำงานจะทำให้มีการทำงานมีความสุขและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

           ผู้นำทิศตะวันออก : เปรียบเสมือน เหยี่ยวหรืออินทรี เป็นพวกธาตุลม มีญาณทัศนะ มีเจตจำนงสูง บุคลิกลักษณะ : เป็นคน
ชอบมองภาพรวมใหญ่ๆ เชื่อมโยงเครือข่ายแบบสร้างสรรค์ ไม่ค่อยสนใจรายละเอียด มีจินตนาการสูง เป็นนักคิดนักฝันสูง ชอบเรียนรู้
เรื่องราวใหม่ๆ ชอบคิดนอกกรอบ แสวงหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ มักจะไปที่ที่ไม่เคยไป เป็นจอมโครงการเจ้าโปรเจ็กต์ บางครั้งเหมือน
พวกฝันกลางวัน ขายฝันเก่ง สนใจทุกเรื่องราว อยากทำทุกเรื่อง จนบางครั้งทำงานแบบไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะสนใจไปหมดทุกเรื่อง
ทั้งยังไม่มีลำดับความสำคัญก่อนหลัง จะเรียกว่าเป็นผู้นำแบบจับจดก็ได้ เพราะเป็นคนเบื่อง่าย ไม่อยู่กับอะไรนานๆ จึงควรยึดอะไรให้มั่น
ทำงานหลักๆ ให้ได้เสียก่อนว่าชอบอะไรแน่ แล้วอะไรควรทำก่อน-หลัง ควรเรียนรู้ระบบตามแบบผู้นำอย่างหมีหรือกระทิงดูบ้าง ควรคิดใหม่
ทำใหม่ ผู้นำแบบอินทรีนั้นห้ามทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เนื่องจากเป็นคนชอบอิสระสูง ชอบสร้างเรื่องประหลาดใจเสมอ
อะไรที่เหนือความคาดหมายนั้นจะชอบเป็นพิเศษ ดังนั้นจะไม่ชอบทำอะไรแบบซ้ำซากจำเจ แบบพวกนักสร้างสรรค์งานโฆษณา
ผู้กำกับภาพยนตร์ มักจะมีบุคลิกแบบอินทรีสูง

ข้อดี : จะมีชีวิตการทำงานที่มีสีสัน สนุกสนาน แต่หาสาระแก่นสารไม่ได้ หรือยากที่จะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย เพราะอาจดูกลายเป็นคนจับจดหยิบโหย่ง ด้วยความเป็นคนไม่ชอบความซ้ำซากจำเจจึงอาจกลายเป็นคนทำงานไม่ต่อเนื่องได้

ข้อเสนอแนะ : ผู้นำในแบบอินทรีหรือเหยี่ยวนั้น ควรต้องมีความผสมผสานระหว่างความเป็นหมีให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง มีการวางแผนที่ดี กลายเป็นคนที่มีจินตนาการที่จับต้องเป็นหลักการได้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นนักฝันแต่เพียงอย่างเดียว

4.กิจกรรมจับคู่เล่าความประทับใจในวัยเด็ก : โดยให้บุคลกรจับคู่กัน และให้แต่ละคนเล่าประสบการณ์ของตนเอง โดยอีกฝ่ายต้องสามารถ
จดจำเรื่องราวของอีกฝ่ายได้ และสามารถถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ในห้องประชุมฟังได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจบุคคลที่ได้กล่าวถึงได้ดีขึ้น
เข้าใจสภาพแวดล้อม ความประทับใจในวัยเด็กของแต่ละคน ซึ่งกิจกรรมนี้จะทำให้เข้าใจถึงบริบทที่แตกต่างกันของแต่ละคนและ
ประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สามารถส่งผ่านความสุขได้เป็นอย่างดี

5.กิจกรรมสรุปผลสิ่งที่ได้จากการจัดกิจกรรม "รู้ตน รู้คน รู้งาน" : โดยให้แบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่มตามเดิมและให้สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในการ
ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และให้ส่งตัวแทนนำเสนอให้เพื่อน ๆ ฟัง และปิดท้ายด้วยการกล่าวปิดการสัมมนาโดย ผศ.ดร.ภาวดี ภักดี
ผุ้อำนวยการสำนักวิชาศึกษาทั่วไป